วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Review Sadou hostel UENO

สวัสดีค่ะ วันนี้ตั๊กจะมี review โฮสเทล ย่านอูเอโนะ ชื่อ Sadou hostel ค่ะ

Sadou เป็น โฮสเทลเปิดใหม่ ซึ่งน่าจะเปิดประมาณ ปี 2017-2018 ทำให้ของใช้หรือแม้อาคารยังใหม่และสะอาด ที่สำคัญอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Okachimachi Station เลยสถานี Ueno มาแค่สถานีเดียว และ รถไฟใต้ดิน Naka-Okachimachi Station โดยถ้าเดินทางจาก Okachimachi Station สามารถออกทางออก North Exit ได้เลยค่ะ โดยที่ทางออกนี้มีลิฟท์และบันไดเลื่อนค่ะ ใครลากกระเป๋าใบใหญ่มาไม่ต้องกลัวเลยค่ะ


เมื่อออกมาแล้วให้เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งเลยค่ะ ซึ่งอีกฝั่งนั่นก็คือ ตลาด Ameyoko นั่นเองค่ะ หลังจากนั้นเดินไปตามทางขวาไปจนถึงสุดทางค่ะ (ขอยืมรูปมาจาก Google map นะคะ เพราะไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ 😀😀)



เมื่อเดินมาสุดทางแล้วก็ข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง จะสังเกตด้านขวามือคือ ตึกม่วงนั่นเองค่ะ ถ้าเรานั่งใต้ดินมาลง Naka-Okachimachi Station ออกทางออก 3 มา ก็เดินเลยตึกม่วงข้ามมาฝั่งตรงข้ามได้เลยค่ะ



เมื่อข้ามถนนมาแล้วให้เดินตรงมาเรื่อยๆ จนถึงทางแยกที่มี Family Mart แล้วเลี้ยวซ้ายเลยค่ะ หลังจากนั้นเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็ถึงแล้วค่ะ Sadou Hostel ถ้าเดินตามทางนี้ โฮสเทลจะอยู่ขวามือเราค่ะ (สามารถเดินตาม Google map ได้เลยค่ะ ไม่หลงแน่นอน)

โฮสเทลจะอยู่หัวมุมทางแยกซอยพอดีค่ะ หาง่ายมากค่ะ
ที่พักจะแบ่งเป็น 3 ประเภทนะคะ คือ ชายล้วน หญิงล้วน และ ห้องรวมค่ะ ใครสะดวกแบบไหนสามารถเลือกจองได้เลยค่ะ ราคาห้องขึ้นอยู่กับเทศกาลและเว็บไซต์ค่ะ สามารถจองได้ทั้งจาก Agoda และ Booking ค่ะ มีอาหารเช้าฟรีค่ะ




เมื่อเข้าไปแล้ว จะเจอ Reception อยู่ด้านล่าง ต้องเดินบันไดลงไปค่ะเพื่อ Check-in ค่ะ ส่วนบันไดที่ขึ้นไปชั้นลอยนั้นคือ Lounge ค่ะ ไว้สำหรับนำอาหารมาทาน และเป็นที่ทานอาหารเช้าค่ะ ทางขวามือคือ ลิฟท์ ค่ะ ต้องเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะก่อนขึ้นลิฟท์ทุกครั้ง โดยรองเท้าแตะที่ใช้แล้วเค้าจะมีตะกร้าไว้ให้ค่ะ หลังจาก Check-in แล้วจะได้คีย์การ์ดและกุญแจล็อกเกอร์ค่ะ (ลืมถ่ายรูปมา ต้องขอโทษด้วยนะคะ 😅😅) คีย์การ์ดเอาไว้กดลิฟท์ค่ะ


      
เมื่อเข้ามาในลิฟท์จะมีรายละเอียดของแต่ละชั้นไว้ค่ะ ชั้น B2 เป็นห้องอาบน้ำ ชั้น 1 เป็น Lounge และ Reception ตั้งแต่ชั้นที่ 2-6 เป็นห้องพักค่ะ ไวไฟฟรีแต่ละชั้นมี password เดียวค่ะ สำหรับกล่องสีขาวๆ เอาไว้แนบคีย์การ์ดแล้วกดชั้นที่ต้องการได้เลยค่ะ เวลาจะกดลิฟท์ทุกครั้งต้องแนบคีย์การ์ดทุกครั้งนะคะ


  
ที่พักของเราอยู่ชั้น 5 ค่ะ ห้องรวมชายหญิง 13 เตียง เมื่อออกจากลิฟท์จะเจอทางเข้าห้องค่ะ มีถังขยะให้อยู่หน้าห้องค่ะ


  
  

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอล็อกเกอร์ค่ะ สามารถนำกุญแจมาไขเพื่อเก็บกระเป๋าหรือสัมภาระได้ที่นี่ค่ะ ล็อกเกอร์ขนาดใหญ่พอสมควรค่ะ กระเป๋าขนาด 29-30 นิ้วใส่ได้สบายๆค่ะ ทุกชั้นจะมีตู้เย็นและไมโครเวฟให้มีสติกเกอร์ให้เขียนชื่อแสดงความเป็นเจ้าของและต้องเคลียร์ของก่อน Check out นะคะ มีพื้นที่ส่วนรวมไว้นั่งคุยกันหรือจัดกระเป๋าค่ะ


  



 ภายในห้องพักค่อนข้างกว้างค่ะ มีหมอน ผ้าห่ม ผ้าขนหนูให้ค่ะ (ผ้าขนหนูเปลี่ยนให้ทุกวันนะคะ โดยจะวางที่ปลายเตียง) ถ้าเราพักหลายคืน เค้าไม่ได้ทำความสะอาดเตียงให้ทุกวันนะคะ แต่ถ้าอยากให้ทำความสะอาดเตียง ทางโฮสเทลจะมีกระดาษให้เราคลิปไว้ที่ผ้าม่านค่ะ มีปลั๊กไฟให้ 1 ตัวและ ช่องเสียบ USB 1 ช่องค่ะ เราว่า ใช้ได้เลยนะคะ ชารต์แบตมือถือช่องนึง และ เสียบสาย power bank ช่องนึงก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่มีข้อเสียอย่างหนึ่งคือ ถ้าใครขี้ร้อนควรจะพกพัดลมมือถือไปเปิดในห้องด้วย ห้องที่เราอยู่ค่อนข้างไกลแอร์ อาจจะไม่เหมาะกับคนขี้ร้อน แต่สำหรับเรา เราขี้หนาวเลยอยู่ได้สบายๆ ค่ะ


  


มาดูห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำมีทุกชั้นค่ะ แต่ห้องอาบน้ำต้องลงไปอาบที่ชั้น B2 อย่างเดียวค่ะ เราพักห้องรวม ห้องน้ำเลยมีแยก ชาย-หญิง (ซึ่งจริงๆ แล้วเข้าห้องไหนก็ได้คะ่ ห้องน้ำเหมือนกัน แต่ห้องน้ำหญิงจะมีถังขยะเล็กๆ ไว้ในห้องน้ำค่ะ) มีอ่างล้างมือ และ ตะกร้าสำหรับใส่ผ้าขนหนูที่ใช้แล้วค่ะ 


  

มาดูห้องอาบน้ำกันบ้างค่ะ ห้องอาบน้ำอยู่ชั้น B2 เมื่อออกจากลิฟท์มาก็เจอตู้กดน้ำเลยค่ะ ดีจริงๆ แต่น้ำเปล่าหมดไวมาก เดินเข้ามาก็มีตู้ซักผ้าและตู้อบผ้าค่ะ เป็นตู้หยอดเหรียญนะคะ ซักผ้า 400 เยน อบผ้า 100 เยน รับเหรียญ 100 เยนเท่านั้นค่ะ ส่วนน้ำยาซักผ้าสามารถซื้อได้ที่ Reception ค่ะ ถุงละ 50 เยน มีอ่างล้างหน้าอยู่ตรงข้ามตู้ซักผ้า มีคัตตอนบัด กระดาษ ไดร์เป่าผม แต่ไม่มีสำลีนะคะ 😓😓


    

        
                               

ห้องอาบน้ำมี 2 แบบ นะคะ คือแบบอ่างอาบน้ำมี 1 ห้อง และแบบฝักบัวมี 6 ห้องค่ะ แต่ละห้องมีแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งให้ค่ะ เพื่อที่เราจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวก มีแชมพู ครีมนวด และ สบู่เหลวให้ค่ะ


  






มาดูอาหารเช้ากันบ้างค่ะ ราคาห้องพักที่นี่รวมอาหารเช้าแล้วนะคะ อาหารเช้าเริ่ม 5.00 ถึง 10.00 น.ค่ะแต่ของออกครบจริงๆ ก็ประมาณ 6 โมงเช้า มีกาแฟสด ชา ซุปสำเร็จรูป (ใส่น้ำร้อนเองนะคะ) ขนมปังหลากหลายชนิด มีเตาอบขนมปังไว้บริการด้วยค่ะ ชาเขียวมีบริการฟรีทั้งวัน จาน-ชาม-ถ้วย ใช้เสร็จแล้วจะมีพื้นที่ให้เก็บค่ะ บริการตัวเองนะคะ ถือว่าครบใช้ได้เลยค่ะ

เวลาออกไปเที่ยวต้องฝากคีย์การ์ดไว้ที่ Reception เสมอนะคะ สำหรับกุญแจล็อกเกอร์ให้เก็บไว้กับตัวค่ะ เวลากลับจากเที่ยวยื่นกุญแจล็อกเกอร์ให้พนักงาน เค้าก็จะให้คีย์การ์ดกลับคืนมาค่ะ

Sadou Hostel ถือว่าเป็นที่พักที่ค่อนข้างสะดวก ครบครัน อยู่ใจกลางเมือง หาของทานได้ตลอดเพราะอยู่ใกล้ตลาด Ameyoko และ ใกล้ๆ ที่พักมีทั้ง Family Mart และ Lowson ค่ะ

ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านค่ะ🙏🙏🙆🙆

Tukky^^






       

                                                                                               

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

โอ้กะจู๋ The Circle ราชพฤกษ์ ความอร่อยที่ต้องกลับไปซ้ำ

         เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสกลับๆไปที่ The Circle ราชพฤกษ์ อีกครั้งหนึ่ง เพราะที่บ้านอยากไปทานร้านอาหารที่ชื่อว่า โอ้กะจู๋ ซึีงเราเองเคยไปกินที่เชียงใหม่แล้วก็ติดใจ และเคยมาที่สาขา The Circle  ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เพราะไปทานครั้งแรกประทับใจมาก

         หลังจากที่เราไปถึงที่ร้าน ก็รอคิวสักระยะเวลาหนึ่งไม่นาน ไม่เกิน 10 นาทีได้ พนักงานก็กดคิวของบ้านเรา และได้เข้าไปนั่งในร้าน ซึ่งเป็นโต๊ะเกือบในสุด (แน่นอนว่าถ้าพนักงานไม่ผ่านมา โต๊ะข้างในๆ ก็เหมือนโต๊ะที่ถูกลืม 😅😅) หลังจากที่นั่งโต๊ะกันเรียบร้อย บ้านเรามีเด็กน้อย 1 คน เราก็ขอโต๊ะสำหรับเด็กไป พนง. ก็ตอบรับเป็นอย่างดี เราก็เล่นกับเด็กน้อยไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ พนง. ก็ยังไม่เอาโต๊ะเด็กน้อยมาให้สักและไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามารับ ออเดอร์ (เข้าใจว่าให้เวลาลูกค้าได้ตัดสินใจ แต่นี่มันก็นานนะ 15 นาทีได้) ด้วยความที่ตัวเองก็หิว เลยตะโกนไปว่า "น้องคะ สั่งอาหารด้วยค่ะ" ด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเล็กน้อยและเสียงค่อนข้างดัง 😥😥😥 พนง. ถึงเดินมารับออเดอร์ที่โต๊ะ ก็สั่งอาหารไปตามปกติ พร้อมทวงโต๊ะเด็กน้อย เพราะตอนนี้เด็กน้อยเริ่มซนแล้ว สั่งไปได้สักพักหนึ่งอาหารก็เรียงรายมาอยู่ตรงหน้า

เริ่มด้วยน้ำส้ม + มะม่วง + เสาวรส ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร 555 ปกติแล้วจะเสิร์ฟมาเป็นเหยือก แต่วันนั้นเหยือกหมด เลยเสิร์ฟมาเป็นขวดทรงสูงแทน 😄 พร้อมแก้วเล็กๆ เท่ากับจำนวนคน แต่วันอาทิตย์ไป 5 คน ได้แก้วมา 3 ใบ (ในแก้วมีน้ำเสาวรส + มะม่วงมา 1 ชิ้น) พอชิมไปก็รู้สึก สดชื่น ได้อารมณ์ Tropical นิดๆ 555 หลังจากนั้นพอพนักงานเอาโต๊ะเด็กน้อยมาให้เลยถามว่า แก้วเล็กนี่ไม่ได้ให้ครบทุกคนหรือคะ พนง. เลยไปเอามาให้เพิ่มจนครบจำนวนคน


พอดื่มน้ำดับร้อนกับไปแล้ว เมนูแรกก็มาจ้า Fish & Chips ปลาชุบเก็ลดขนมปังทอดนี่เอง 😂😂 กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมกับ ทาร์ทาร์ซอส สลัด และ เครื่องเคียง คือเฟร้นฟราย (อาหารทุกจานส่วนใหญ่จะมีสลัดให้ ซึี่งเยอะพอสมควร แต่เราสามารถเลือกเปลี่ยนเครื่องเคียงได้ มีให้เลือกหลายอย่าง)


 หลังจากนั้น สลัดก็มา ซึ่งสลัดทางร้านมีให้เลือก 2 แบบ คือสลัดที่เป็นเมนูที่ร้านจัดไว้ให้ และสลัดสามารถเลือกทุกอย่างเอง เช่นอันนี้เป็นสลัดที่เราเลือกเองค่ะ จานใหญ่มากจริงๆ เราสั่งน้ำสลัดเทาซันไอส์แลนด์ไป รสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ รสจัด แต่ทานกับสลัดแล้วพอดีเลยค่ะ



คลุกสลัดยังไม่ทันเสร็จ ไส้กรอกรวมย่างก็มาจ้า อาหารมาเร็วจริงๆ ไส้กรอกเราไม่ได้กินเลยบอกไม่ถูกว่ารสชาติยังไง แต่ถามแม่แล้วแม่บอกว่าอร่อย 555 เครื่องเคียงจานนี้เราเลือกเป็นมันหวานทอดค่ะ


พอร์คชอปก็ตามมาอย่างรวดเร็ว รสชาติสเต็กที่นี่ รสชาติดีเลยค่ะ รสจัดกำลังดี ไม่จืด แม่เราเป็นคนทานรสจัดมากยังบอกเลยว่า อาหารที่ร้านโอ้กะจู๋ ถูกปากมากที่สุดในบรรดาร้านอาหารที่เคยไปกินมาทั้งหมด


จานนี้เป็นสปาเก็ตตี้ คาโบนาร่าค่ะ (ของเด็กน้อย แต่เด็กน้อยไม่ได้กิน 😆😆 รสชาติเข้มข้น ซอสให้เยอะ (บางร้านให้ซอสน้อยทำให้ดูแห้งๆ) ในจานมีทั้งเบคอนกรอบ และ เบคอนธรรมดา เบคอนชิ้นใหญ่ ได้รสชาติเบคอนไปเต็มๆ มีไข่ลวกให้อีก 1 ใบ ยิ่งทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้นไปอีก สามารถเลือกเส้นสปาเก็ตตี้ได้นะคะว่าต้องการแบบไหน


จานสุดท้ายซี่โครงหมูสะพานโค้ง คราวนี้เราสั่ง ไซต์ S ค่ะ (ทางร้านมีให้เลือก 2 ไซต์ คือ S กับ L ซึ่งขนาดก็ต่างกับสมกับไซต์ 555 คราวที่แล้วสั่งไซต์ L มากินไม่หมดต้องห่อกลับบ้าน เกรงใจร้านเค้าฝุดๆ) ซึ่โครงหมูที่เสิร์ฟมานุ่มค่ะ สามารถใช้มีดตัดได้ เนื้อเยอะ ซอสรสชาติดี ไม่เจอเม็ดพริกไทยชิ้นใหญ่(คราวที่แล้วเจอพริกไทยชิ้นใหญ่ ทานเข้าไป เม็ดพริกไทยติดฟัน 555) ซอสรสชาติเข้มข้น ทานกับสลัดกับหอมทอดเข้ากันได้ดี ซอสให้เยอะพอที่เอาหอมทอดจิ้มเป็น้ำจิ้มได้ 😋😋


ปิดท้ายด้วย สมูทตี้สตรอเบอร์รี่ + อะโวคาโด้ + โยเกิร์ต สมกับเป็นร้านออแกนิกค่ะ รสชาติไม่หวานน้ำตาลเลย หวานจากสิ่งที่ใส่ไปล้วนๆ เมนูนี้จริงๆ แล้วเอาให้แกล้งเด็กน้อยค่ะ คราวที่แล้วเด็กน้อยชอบ ดูดไม่ยอมปล่อยแก้วเลย😂😂 ซึ่งคราวนี้ก็เหมือนกัน ดูดไม่ยอมปล่อยแก้วเลย แต่หลอดรูแคบไปทำให้ดูดไม่ค่อยขึ้น เราเป็นผู้ใหญ่ยังดูดไม่ค่อยขึ้นเลยค่ะ

หลังจากนั้นก็เรียกคิดเงินตามปกติ รวมค่าเสียหายไป 1,888 บาท ซึ่งทุกคนมีความเห็นที่ตรงกันว่า ไม่แพง 555 รสชาติ และขนาดอาหารเหมาะสมกับราคา


      มาดูข้อดี และ ข้อเสีย ที่เราประสบมา ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ

    ข้อดี
           1. รสชาติอาหารดี จานใหญ่สมราคา
           2. อาหารออกค่อนข้างเร็ว
           3. สถานที่จัดสวยงามและใช้พื้นที่ได้อย่างเหมาะสม
           4. ร้านโอ้กะจู๋ สามารถทำตัวเองให้เป็นร้านออแกนิกได้อย่างสมศักดิ์ศรีและภาคภูมิ (ชอบตรงเปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษ 555)
           5. เดินทางสะดวก มีทั้งสาขาในใจกลางเมือง และ ชานเมือง (ฝั่งธน มั้ย😂😂)
           6. สาขานี้ตั้งอยู่ใน community mall ขนาดใหญ่ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถ (สบาย)

ข้อเสีย
          1. ร้านค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้าทำให้ต้องรอคิวนาน ควรกินอะไรรองท้องมาก่อนและหากิจกรรมทำระหว่างรอคิว 5555
          2. พนักงานน้อย ในช่วงที่ลูกค้าเยอะ (เห็นเยอะตลอดนะ) ทำให้ดูแลลูกค้าได้ไม่เต็มที่ และนั่งรอเวลาที่ พนง.มารับออเดอร์นาน แต่รออาหารไม่นานนะ อิอิ
          3. ควรเปิดสาขาให้เยอะกว่านี้ 5555 (อันนี้เป็นความต้องการส่วนตัว)

   แต่ถึงยังไงก็จะไปอีก 5555

ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านค่ะ🙏🙏🙆🙆

Tukky^^