วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2562

วิธีการจอง Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket

สวัสดีค่ะ ตั๊กนะคะ บทความนี้จะเป็นวิธีการจอง Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket ค่ะ  มาเริ่มกันเลยนะคะ

       การเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองโตเกียวนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีค่ะ ทั้งรถบัส และรถไฟ ซึ่งรถไฟเองก็มีให้เลือก 2 เจ้าที่ดังๆ ด้วยกัน คือ Keisei Electric Railway ให้บริการรถไฟ KeiseiSkyliner และ JR ให้บริการรถไฟ Natira Express นั่นเองค่ะ ซึ่งรถไฟทั้ง 2 สายก็เป็นรถไฟด่วนเข้าเมืองทั้งคู่ค่ะ แล้วแต่เราจะเลือกเลยว่าอยากเข้าเมืองโซนไหน ถ้าที่พักอยู่แถว UENO ก็เลือก Keisei Skyliner หรือถ้าที่พักอยู่แถว SHINJUKU ก็สามารถเลือก Natira Express ได้ตามสะดวกเลยค่ะ

        ซึ่งที่พักของตั๊กคราวนี้อยู่แถวโซน UENO ค่ะ ตั๊กเลยเลือก KeiseiSkyliner เป็นวิธีการเดินทางเข้าเมืองค่ะ ซึ่งตั๋ว KeiseiSkyliner สามารถซื้อได้จาก Agency ในเมืองไทยได้เลย มีขายอยู่หลายเจ้าค่ะ แต่ด้วยความที่บ้านอยู่ต่างจังหวัดจะให้เดินทางเข้าเมืองเพื่อซื้อตั๋วก็ขี้เกียจ จะสั่งออนไลน์ก็เสียดายค่าส่ง😅😅 ตั๊กเลยเลือกวิธีการจองตั๋วกับทาง Keisei Electric Railway เลยดีกว่า ไม่เสียค่าเดินทาง และไม่เสียค่าส่งด้วย 😁😁 ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ

1. เข้าเว็บของ Keisei Electric Railway https://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/index.php
ซึ่งแน่นอนทางเว็บไซต์มีภาษาไทยจ้า 😄😄  หลังจากนั้นเลือก Skyliner e-ticket ได้เลยค่ะ


2. หลังจากนั้นระบบจะให้เราเลือกค่ะ ว่าต้องการ Skyliner Discount Ticket หรือ Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket เราสามารถเข้าไปดูรายละเอียดที่ Product information ได้เลยค่ะ แผนการเดินทางคราวนี้มีเที่ยวในเมืองด้วย 1 วัน ตั๊กเลยเลือก Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket ค่ะ กดตรง Purchase online ไปเลยจ้า

หลังจากเลือกได้แล้วจะขึ้นหน้านี้ขึ้นมาเพื่อบอกว่าใครจะมีสิทธิใช้ตั๋วราคาพิเศษได้บ้างกด Close ไปเลยจ้า


3. ขั้นตอนนี้ระบบจะให้เราใส่รายละเอียดการเดินทางค่ะ
       - เดินทางวันไหน (สามารถจองล่วงหน้าได้ 30 วัน)
       - เดินทางเที่ยวเดียวหรือ ไป-กลับ
       - ออกจากสนามบินนาริตะที่ Terminal 1 หรือ Terminal 2-3
       - สถานีปลายทางที่ลง มี 2 สถานีค่ะ คือ Nippori กับ Ueno 
       - เลือกจำนวนวันที่ต้องการใช้ Subway 1 วัน (24 hours), 2 วัน (48 hours) หรือ 3 วัน (72 hours)
       - จำนวนคนเดินทาง 
       - ติ๊กเครื่องหมาย ✅ ตรงช่อง I agree to the Terms of Service. และ I have reviewed the Guide to 
          Available Trains.
      - หลังจากนั้นไปขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ


4. ขั้นตอนนี้ระบบจะให้เราใส่รายละเอียดของผู้ที่เดินทางทุกคนค่ะ เสร็จแล้ว กด Details Confirmation เลยค่ะ


5. ขั้นตอนนี้ระบบจะให้เราตรวจสอบความถูกต้องค่ะ ถ้าข้อมูลถูกต้องก็ไปขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ ถ้าไม่ถูกต้องสามารถกลับไปแก้ไขได้ค่ะ


6. หลังจากนั้น ระบบจะส่ง E-mail ยืนยันการจองตั๋วให้เราค่ะ หลังจากนั้นเราต้องคลิกลิงค์ที่ทางระบบส่งมาเพื่อใส่ข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อชำระเงินค่ะ
* ถ้าไม่ชำระเงินภายใน 60 นาที จะต้องทำรายการใหม่ตั้งแต่ต้นค่ะ


6. หลังจากที่ใส่ข้อมูลบัตรเครดิตแล้ว ถ้าทำรายการสำเร็จจะมี E-mail confirm การชำระเงินและรายละเอียดการแลกตั๋วที่สนามบินส่งมาให้ค่ะ


       เมื่อเราเดินทางถึงสนามบินให้เรายื่น E-mail ฉบับนี้ให้กับเจ้าหน้าที่พร้อม passport ของคนที่เดินทางทุกคนเพื่อแลกเป็นตั๋วจริงที่ SKYLINER & KEISEI INFORMATION CENTER ค่ะ

      เป็นยังไงคะ การจองตั๋ว KeiseiSkyliner ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ 

ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านค่ะ 🙏🙏🙆🙆


Tukky^^





วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2562

วิธีการจอง highway bus (Tokyo (Shinjuku)-Mount Fuji 5th Station)

สวัสดีค่ะ ตั๊กนะคะ บล็อกนี้จะเป็นวิธีการจองรถบัสจาก สถานีรถบัสชินจูกุ ไป ที่ภูเขาไฟฟูจิ ชั้น 5 ค่ะ


      รถบัสสายนี้ไม่ได้เปิดตลอดทั้งปี เหมือนสายอื่นๆ นะคะ รถบัสสายนี้จะเปิดเฉพาะเทศกาลปีนภูเขาไฟฟูจิเท่านั้น คือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน - กันยายน โดยช่วงเดือนมิถุนายน มีรถบัสไป-กลับ วันละ 2 รอบ (ไป 2 เที่ยวและ กลับ 2 เที่ยว) แต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน มีรถบัส ไป-กลับ วันละ 10 รอบ (ไป 10 เที่ยวและ กลับ 10 เที่ยว) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักปีนเขาที่จะไปปีนภูเขาไฟฟูจิเท่านั้นค่ะ โดนรถบัสต้นสายคือ สถานีรถบัสด่วนชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) ไปปลายทางคือ ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 (Mt. Fuji 5th Station) โดยมีวิธีการดังนี้ค่ะ 

1. เข้าเว็บไซต์ highway bus https://highway-buses.jp/thai/ หลังจากนั้นเลือกสายรถบัสที่เราต้องการได้เลยค่ะ เราจะไปภูเขาไฟฟูจิ ก็เลือกสาย โตเกียว (ชินจูกุ) - ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 ได้เลยค่ะ


2. หลังจากนั้นเลือกวันที่จะเดินทางและกดตรวจสอบที่นั่งว่างได้เลยค่ะ (รถบัสสามารถจองล่วงหน้าได้ 1 เดือน โดยเริ่มจองได้ตั้งแต่เวลา 4.00-24.00 น. จากเวลาของญี่ปุ่่น)

3. เลือกเวลาเดินทางได้เลยค่ะ ถ้ามีที่นั่งว่างอยู่จะเป็นสีน้ำเงินเข้ม แต่ถ้าที่นั่งเต็มแล้วจะเป็นสีน้ำเงินอ่อน (เวลาเดินทางไปปีนภูเขาไฟฟูจิต้องออกเช้าหน่อยนะคะ เพราะใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน จะเห็นว่ารถบัสเที่ยวเช้าจะเต็มเร็วมาก) รถบัสมี 2 ประเภทนะคะ คือรถบัสที่มีห้องน้ำ และรถบัสที่ไม่มีห้องค่ะ ใครสะดวกแบบไหนเลือกได้เลยค่ะ เมื่อเลือกเวลาได้แล้วกดเลือกได้เลยค่ะ


4. พอเลือกเวลาได้แล้วมาเลือกที่นั่งกันค่ะ ให้เรากดสำรองที่นั่ง หลังจากนั้นเลือกที่นั่งด้านหน้าหรือด้านหลังได้เลยค่ะ ถ้าเดินทางคนเดียวเราสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกที่นั่งริมหน้าต่างหรือริมทางเดินค่ะ ทั้งนี้เรายังสามารถเลือกแบบ ไป-กลับ หรือเที่ยวเดียวได้ ถ้าเลือกแบบไป-กลับ ระบบจะให้เรากลับไปเลือกตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2 ใหม่ เราก็เลือกวันกลับและเที่ยวรถกลับได้เลยค่ะ
*รถบัสที่เป็นเส้นทางยอดนิยม แนะนำให้เลือกเที่ยวเดียว แล้วให้จองวันกลับอีกครั้งหนึ่ง เพราะถ้ารอเวลาอาจจะไม่ได้รถรอบที่ต้องการค่ะ
5. พอถึงตรงนี้ให้เราใส่ข้อมูลส่วนตัวได้เลยค่ะ จะสังเกตุเห็นว่าจะมีส่วนสรุปให้เราตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเพื่อนๆ อยากเปลี่ยนเวลาหรือเปลี่ยนเส้นทางก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้เลยค่ะ 
*เวลาใส่ตัวอักษรตัวเล็กตัวใหญ่ต้องจำด้วยนะคะ เพราะเวลายืนยันการจองหรือยกเลิก หรือเปลี่ยนเป็นตั๋วมือถือ เราต้องใส่ข้อมูลให้ตรงกับหน้านี้ค่ะ แนะนำว่าถ้าใส่ตัวใหญ่ก็ตัวใหญ่ทั้งหมด ตัวเล็กก็ตัวเล็กทั้งหมดค่ะ

6.  หน้านี้จะเป็นการยืนยันข้อมูลการจองค่ะ ให้เพื่อนๆ ตรวจข้อมูลให้เรียบร้อย ถูกต้อง หลังจากนั้นไปขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ


7. หลังจากนั้นให้เรากรอกข้อมูลบัตรเครดิตได้เลยค่ะ

8. หลังจากยืนยันการชำระเงินแล้วระบบจะให้เรายืนยัน E-mail เพื่อส่งอีเมล์แจ้งการชำระเงินค่ะ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ แต่ต้องเร็วค่ะ เพราะต้องแย่งกันจอง 555
*เมื่อยืนยันการชำระเงินแล้วระบบจะตัดยอดบัตรเครดิตไว้ค่ะ เราสามารถเข้าไปยกเลิกได้ก่อนออกเดินทางครึ่งชั่วโมงค่ะ โดยเค้าจะคืนเงินเข้ายอดบัตรเครดิตเราและมีการหักค่าใช้จ่าย 100 เยน/คน/เที่ยว ค่ะ

      สำหรับตั๋วที่จะใช้เดินทางมี 2 แบบ นะคะ คือ ปริ้นเป็นกระดาษไปค่ะ เวลาจะขึ้นรถก็ยื่นให้พนักงานแล้วขึ้นรถได้เลย สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่อยากพกกระดาษ สามารถเข้าไปเปลี่ยนเป็นตั๋วสำหรับมือถือได้ที่ ปุ่ม ยืนยัน (ยกเลิก) การจอง ค่ะ
พอขึ้นหน้านี้แล้วให้เพื่อนๆ ใส่ข้อมูลตอนที่เราจองได้เลยค่ะ 
*อย่าลืมนะคะ เวลากรอกชื่อ-นามสกุล ตัวอักษรใหญ่-เล็กมีผลด้วยนะคะ

หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว กด ไปที่หน้ารายการจอง จะขึ้นหน้านี้มาค่ะ

เพื่อนๆ สามารถเปลี่ยนตั๋วโดยสารสำหรับมือถือได้จากหน้านี้ค่ะ โดยใส่ E-mail ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ระบบจะส่งลิงค์ตั๋วไปที่ E-mail พอเราจะขึ้นรถบัส เราก็กดลิงค์ยืนยันแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูค่ะ แต่เพื่อนๆ ต้องลิงค์ E-mail ลงในมือถือด้วยนะคะ หรืออยากจะปริ้นตั๋วใหม่ก็กด แสดงและพิมพ์ตั๋วโดยสารออนไลน์ได้เลยค่ะ

       เป็นยังไงคะ การจองตั๋วรถบัสไปภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เพียงแต่เพื่อนๆ ต้องเร็วเท่านั้นค่ะ เพราะตั๋วรอบเช้าเต็มเร็วมากจริงๆ ตั๊กตื่นมาจองตอน ตี4 บ้านเรา ยังได้แถวที่นั่งกลางๆ เลยค่ะ 
บทความนี้อาจจะเป็นแนวทางๆ ให้เพื่อนได้ไม่มากก็น้อยนะคะ 


ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านค่ะ 🙏🙏🙆🙆


Tukky^^


วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2562

วิธีการจองที่พักบนภูเขาไฟฟูจิ (Tomoekan ชั้น 8)

สวัสดีค่ะ ตั๊กนะคะ บล็อกนี้จะเป็นวิธีการจองที่พักบนภูเขาไฟฟูจิค่ะ 

      เราตั้งใจว่าวันที่จะไปปีนภูเขาไฟฟูจิกันคือ วันที่ 11-12 กค. ค่ะ เริ่มปีนวันที่ 11 สายๆ นอนบนภูเขาไฟฟูจิ 1 คืน และเช้าวันที่ 12 ขึ้นไปที่ยอดภูเขาไฟฟูจิ และค่อยลงมาที่ชั้น 5 เพื่อกลับโตเกียวค่ะ โดยตั๊กอ้างอิงที่พักบนภูเขาไฟฟูจิจาก เว็บไซต์นี้ค่ะ




ถ้าคุณเปิดเว็บตามลิงค์แล้วเจอหน้านี้ คุณได้ไปต่อค่ะ 😄😄

      จากหน้าเว็บจะมีที่พักจากทั้ง 4 เส้นทางที่สามารถปีนฟูเขาไฟฟูจิได้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเปิดให้จองช่วงต้นเดือนเมษายน ของทุกปี (ตั๊กไม่ขอลงรายละเอียดทั้ง 4 เส้นทางนะคะ) พวกเราตั้งใจจะปีนฟูจิทาง Yoshida Trail เลยเล็งที่พักที่อยู่สูงที่สุดคือ Goraiko kan ที่อยู่ชั้น 8.5 แต่พอถึงเวลาจองที่พักต้นเดือนเมษายน ที่พักที่เล็งไว้ยังไม่เปิดให้จองจ้า 😅😅 (ปี 2019 เส้นทาง Yoshida Trail เปิดให้ขึ้นวันแรกวันที่ 9 กรกฎาคม เนื่องจากสภาพอากาศ) เลยเปลี่ยนมาจองที่พักที่ต่ำกว่า คือ Tomoekan อยู่ชั้น 8 ค่ะ โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. เข้าหน้าเว็บตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://tomoekan.com/english/ จะเจอหน้าตาตามรูปเลยค่ะ
    จากหน้านี้เราสามารถเลือกหัวข้อได้ตามต้องการค่ะ



2. เลือก Reservation เพื่อเลือกวันที่เข้าพักได้เลยค่ะ (ระยะเวลาการจองมีแค่เดือน กรกฎาคม - กันยายน ของทุกปี) ที่พักของที่นี่มีทั้งหมด 2 ชั้นค่ะ คือชั้น 7 และ ชั้น 8 ถ้าที่พักยังมีที่ว่างอยู่จะขึ้น ⃝     จำนวนตัวเลขคือที่ว่างที่ยังเหลือในวันนั้นๆ แต่ถ้าที่พักเต็มแล้ว จะขึ้น x (ปี 2019 ที่พักเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน) อยากเข้าพักวันไหน กดที่สัญลักษณ์ได้เลยค่ะ




3. หลังจากเลือกวันได้แล้วก็จะเป็นหน้าของการจองค่ะ ก็ใส่จำนวน ผู้ใหญ่และเด็ก ได้เลยค่ะ ถ้าต้องการอาหารเย็นหรืออาหารเช้าก็สามารถเลือกได้เลยค่ะ แล้วกด Add ได้เลยค่ะ

4. หลังจากนั้นก็จะขึ้นหน้าในส่วนของรายละเอียดค่ะ กรอกข้อมูลของเราลงไปเลยค่ะ ใส่ตรงที่มี * ครบนะคะ หลังจากนั้น กด check booking ได้เลยค่ะ 
ต้องใส่ E-mail ให้ถูกนะคะเพราะระบบจะส่งใบยืนยันการจองไปที่ E-mail ค่ะ

5. หน้านี้จะให้เราเช็คข้อมูลว่าถูกต้องหรือเปล่า ถ้าข้อมูลถูกต้อง ให้ติ๊กเครื่องหมายถูก ตรงช่อง I agree with terms of booking ค่ะ แล้วกด Book ได้เลยค่ะ
6. พอถึงขั้นตอนนี้เราจะได้ Reservation ID มาค่ะ พร้อมกับ E-mail การยืนยันการจองที่พัก ซึ่งเวลาเข้าพักเราสามารถแจ้ง ID กับทางที่พักได้เลยค่ะ 

     ทางที่พักมีวิธีการชำระเงิน 2 วิธีค่ะ คือ ตัดบัตรเครดิตมีส่วนลด 300 เยน และจ่าย ณ ที่พัก ไม่มีส่วนลดค่ะ

     เป็นยังไงคะ การจองที่พักไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เพียงแต่ต้องจองให้เร็วเพราะที่พักเต็มเร็วมาก โดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ ตอนที่ตั๊กจอง sever ของทางเว็บล่มบ่อยมาก กด refresh รัวๆ กันไปเลยจ้าาาาาาา😅😅


ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านค่ะ 🙏🙏🙆🙆


Tukky^^


การเตรียมตัวก่อนไปปีนภูเขาไฟฟูจิ 2019 ฉบับ tukky^^

สวัสดีค่ะ ตั๊กนะคะ วันนี้อยากจะมาเขียนไดอารี่ในการเตรียมตัวไปภูเขาไฟฟูจิ ฉบับของตั๊กให้ฟังค่ะ

     เริ่มแรกเลยที่อยากจะไปปีนภูเขาไฟฟูจิ หรือ Mt. Fuji เพราะมีโอกาสไปโตเกียว 2 ครั้ง และไม่ได้เห็นยอดภูเขาไฟฟูจิเลยสักครั้ง เนื่องจากภูเขาไฟฟูจิขี้อาย😭😭 ประกอบกับไปเจอกระทู้ใน pantip เรื่องการไปปีนฟูจิ เลยเกิดแรงบันดาลใจว่า ในชีวิตนี้อยากจะไปยอดฟูจิสักครั้ง เลยเริ่มหาข้อมูลจนตัดสินใจละ ว่าจะไปให้ได้ ใครจะห้ามยังไงก็ไม่ฟัง 555 แล้วชักชวนหาเพื่อนรวมขบวนการ ซึ่งหลอกมาได้ 2 คน ต้องขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ มา ณ ที่นี้ที่ยอมให้โดนหลอก 🙏🙏 ตกลงกันไว้ว่าจะไป วันที่ 9-16 กค 62 เนื่องจากติดวันหยุด 2 วัน แต่ละคนไม่ต้องลางานเยอะ

     หลังจากที่หาข้อมูลแล้วเลยเกิดการเตรียมตัวดังนี้
         1. จองตั๋วเครื่องบิน BKK-TOKYO ซึ่งฐานะอย่างเรา แน่นอนว่าต้อง Low cost เท่านั้น😏😏  การจองตั๋วเครื่องบินนี้ใช้บริการ Airasia ค่ะ จองข้ามมมมมมมมปี จองกันยาวๆ ไปเลย
         2. เตรียมอุปกรณ์ในการปีนฟูจิ ค่อยๆ เตรียมไป เนื่องจากมีเวลาตั้งปีกว่า และเตรียมแพลนสำหรับเที่ยวรอบๆ โตเกียว
         3. จองที่พัก ที่พักเราจอง Hostel ค่ะ หวยออกที่ Sadou Hostel  จอง 2 ช่วง ช่วงวันที่ 10-11 กค และ 12-16 กค เพราะ คืนวันที่ 11 เราจะไปนอนที่ฟูจิกันค๊าาาาาาาาา
         4. จองที่พักบนภูเขาไฟฟูจิ มีให้เลือกตามแต่ละ station เลยค่ะ โดยเราอ้างอิงเว็บไซต์นี้ค่ะ
http://www17.plala.or.jp/climb_fujiyama/mountain_huts.html จากหน้าเว็บจะมีที่พักให้เลือกเยอะอยู่ (เราปีนเส้นทาง Yoshida Trail) เราเลือก Hon Hachiko Tomoenkan ค่ะ
         5. จองรถบัสไป ภูเขาไฟฟูจิ สถานทีที่ 5 หรือชั้น 5 นั่นเอง ซึ่งจากโตเกียวเราสามารถไปที่นี่ได้ 2 เส้นทางนะคะ คือ
                1. ขึ้นรถไฟไปที่สถานีคาวากูชิโกะ และจะมีรถบัสไปภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 (เหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวรอบๆ ทะเลสาบคาวากูชิโกะด้วย)
                2. ขึ้นรถบัสจากสถานีรถบัส ชินจูกุ (Highway Bus) ไปที่ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 (เราตัดสินใจเลือกวิธีนี้ค่ะ)
         6. จองตั๋วรถไฟ และ pass ต่างๆ ในการท่องเที่ยววันอื่นๆ
         7. สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ เตรียมร่างกาย จิตใจ และ เงินค่ะ😄😄 เพราะการเดินทางไปปีนยอดฟูจิครั้งนี้ ตั้งใช้พลังงานกายและพลังงานใจ และเงิน ใช้เยอะจริงๆ ค่ะ 555

     หลักๆ ในการเตรียมตัวก็มีเท่านี้ค่ะ ส่วนในเรื่องของแต่ละหัวข้อ ตั๊กขอแยกเป็นตอนๆ ไปนะคะ^^

ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านค่ะ 🙏🙏🙆🙆

Tukky^^